เดินชิวเที่ยวตลาด...เพลินชมตึกเก่า @ ย่านตลาดทรัพย์สินฯ...เมืองแปดริ้ว ....


 
ถ้าเอ่ยถึง แปดริ้ว คนทั่วไปก็จะนึกถึง ตลาดโบราณ อย่างตลาดบ้านใหม่ 100 ปี  ตลาดคลองสวน  ตลาดนครเนื่องเขต  หรือตลาดบางคล้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตลาดวันเสาร์-อาทิตย์ และหยุดนักขัตฤกษ์  แต่ตลาดที่คนแปดริ้วแวะไปหาซื้อของกินของใช้ มีอยู่หลายแห่ง แต่ที่เด่นๆ ก็ต้องที่ ย่านตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เป็นตลาดที่มีทั้งของกิน ของใช้ ของสด ของแห้ง ขายกันตั้งแต่เช้ามืดยันค่ำ ก็เห็นจะเป็นตลาดสดทรัพย์สินฯ และตลาดบ่อบัว  ที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกันยาว  อยูู่บนถนนฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยว เป็นถนนเส้นในตัวเมืองที่จะยังไปตลาดบ้านใหม่ และอำเภอบางน้ำเปรี้ยว ช่วงเช้าๆ ใครรีบนี่อย่าได้เผลอผ่านเข้าไปเชียว  ตลาดสดสองฝั่งข้างทางตรงตลาดบ่อบัวนี่จะเหมือนปากคลองตลาดในกรุงเทพฯ ก่อนถูกจัดระเบียบเลย ...แต่ถ้าไม่รีบ แล้วต้องการเดินหาซื้อของสด เดินตลาดเช้าล่ะก็เพลินกันไปเลย
  

รถสองแถวที่มีอยู่บากในเมืองแปดริ้ว  วิ่งให้บริการไปเกือบทุกแห่ง  เส้นนี้ผ่านตลาดทรัพย์สินฯ วัดเล่งฮกยี่  ตลาดบ้านใหม่
ในภาพนี่ไปสายตลาดค่อนข้างจะวายแล้ว ถ้าช่วงเช้านี่ จะทั้งคนและรถเข็นของเดินข้ามกันเป็นถนนคนเดินเลย 

ซอยย่อยเข้ามาด้านในของตลาดบ่อบัวก็มีของขายหลายอย่าง

ที่นี่ถูกเรียกว่าย่านทรัพย์สินฯ  เพราะพื้นที่เกือบทั้งหมด และพื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองแปดริ้วนั้นเป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  ถูกดูแลโดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนมหากษัตริย์มาตั้งแต่ พ.ศ.2538 และมีอาคารสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์หลังงามตั้งอยู่ติดกับตลาด ริมแม่น้ำบางปะกง  นับเป็นอีก Land Mark สำคัญของจังหวัดเลย ที่เดียว 



อาคารสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จังหวัดฉะเชิงเทราแห่งนี้ นอกจากภายนอกที่ดูงดงาม โดดเด่น บนถนนมรุพงษ์ ริมแม่น้ำบางปะกง ด้วยสถาปัตยกรรมยุโรป ศิลปะแบบนีโอคลาสิคแล้ว  ประวัติความเป็นมาของอาคารแห่งนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะเดิมเคยเป็นทั้ง "ที่ทำการมณฑลปราจีน"  ซึ่งถูกย้ายจากเมืองปราจีนบุรี มาอยู่ที่เมืองแปดริ้ว ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มีการจัดรูปแบบการปกครองเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล และสร้างอาคารมณฑลปราจีนขึ้นเมื่อ พ.ศ.2446 โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมื่นมรุพงษ์ศิริพัฒน์ทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงเทศาภิบาลพระองค์แรกที่ทรงใช้อาคารแห่งนี้

ต่อมาอาคารหลังนี้ได้ถูกใช้เป็นศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นที่ตั้งสำนักงานเทศบาลเมือง และให้เอกชนเช่าช่วงที่ดิน จนกลายเป็นร้านอาหาร  รอบๆ ข้างมีอาคารพาณิชย์เกิดขึ้น และเกิดเพลิงไหม้อย่างหนักใน ปี พ.ศ.2527  ตัวอาคารเสียหายอย่างหนัก จนกระทั่งปี พ.ศ.2535 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จมาทอดพระเนตรสภาพอาคาร จึงมีพระราชดำริให้อนุรักษ์อาคารขึ้นมาใหม่ โดยกรมศิลปากรเป็นผู้ดำเนินการให้เป็นรูปแบบเดิมในปี พ.ศ.2540
ภายในของอาคารสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดทำการในเวลาราชการ ให้บริการแก่ผู้ที่มาติดต่อ และผู้เช่าพื้นที
ปัจจุบันเป็นที่ทำการของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จังหวัดฉะเชิงเทรา และเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัด ตัวอาคารได้รับรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่นประจำปี ๒๕๔๘ จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์และรางวัล Asia-Pacific Heritage Awards for Culture Heritage Conservation จากยูเนสโกในปี ๒๕๕๑

หมายเหตุ  ข้อมูลจากหนังสือ  เที่ยวเพลินเดินตลาดทรัพย์สิน
อาคารที่ทำการพุทธสมาคม อยู่ถัดจากอาคารทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  เคยเป็นศาลมณฑลปราจีน

ใกล้ๆ กับอาคารสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  ยังมีสถานที่อีกแห่งที่สะดุดตาและน่าสนใจ  คือ ที่ทำการพุทธสมาคม ซึ่งเดิมเป็น "ศาลประจำมณฑลปราจีน" สร้างเมือ 2450  และเป็นสถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอนันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร รัชกาลที่ 8 พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช(รัชกาลที่ 9)  เสด็จออกประทับเป็นประธานคณะผู้พิพากษาในการพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2489  

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่า ย่านตลาดทรัพย์สินฯ นี้ มีความสำคัญมาตั้งแต่อดีต จึงไม่น่าแปลกใจที่จะยังมีตลาด ร้านค้า เจ้าเก่า เจ้าดัง หรือเจ้าใหม่อยู่บริเวณนี้หลายแห่ง แถมมีตั้งแต่เช้ายันค่ำกันเลยทีเดียว  

ในส่วนที่เป็นตลาดสดทรัพย์สินฯ นั้น มีทั้งที่เป็นตลาดสด มีผักผลไม้  อาหารทะเล เนื้อหมูเนื้อไก่ ร้านดอกไม้ ร้านขนม ร้านน้ำ เจ้าเก่าเจ้าดังได้แก่ ร้านปลาตากแห้งป้านวล ร้านขนมไข่  ร้านขายปลทูปลาโอ  ร้านดอกไม้อรุณีแปดริ้ว ร้านปูดอง  ร้านอาหารทะเลสด ร้านปังเป้ง ร้านน้ำอาม่า (ร้านนี้คนแน่นตลอดเลย ขายชา กาแฟ น้ำปั่น ราคาไม่แพง) ถัดจากตลาดสดก็เป็นตลาดผ้า อาคารพาณิชย์ที่เป็นร้านรายของสารพัดอย่าง แทบจะไม่มีอะไรที่ไม่มีขายกันในย่านนี้เลย  ทั้งร้านขายของชำ  ร้านทอง  ร้านสังฆภัณฑ์ ร้านขายยาแผนโบราณ แผนปัจจุบัน  ร้านขายของเล่น ร้านกาแฟ วัสดุทางการเกษตร  ร้านขายอาหารสัตว์ ร้านหนังสือ ร้าอะไหล่  ร้านจักรยาน ฯลฯ


ร้านกาแฟอาม่า  ไปทีไรก็คนแน่น  ถุงใหญ่ เข้มข้น มีสารพัดเมนูให้เลือกสั่ง


ร้านคิงส์สโตร์ ก็มีสารพันขนมดังแห่งเมืองแปดริ้วให้เลือกซื้อกันทุกวัน
นอกจากสารพัดร้านขายของแถว  ย่านตลาดทรัพย์สินฯ โดยเฉพาะบนถนนพานิช ที่สองฝั่งถนนเป็นอาคารแบบเก่าที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างสวยงามเหมือนย่านถนนพระอาทิตย์ในเขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งเต็มไปด้วยคลีนิกของหมอตลอดทั้งเส้นของถนน ทั้งรักษาโรคทั่วไป ทำฟัน หมอเด็ก หมอสูติฯ รักษาริดสีดวง ฯลฯ ที่ช่วงเย็นและค่ำจะมีคนมารอรักษากันเต็มเกือบทุกแห่ง  มีคั่นด้วยร้านขายผ้า  ขายทอง  อุปกรณ์ต่างๆ ร้านขายของชำ  เป็นต้น
มองจากมุมนี้  ด้านหลังก็ยังมีอีกหลายคลีนิก ใครเดินเพลิน เป็นลมหน้ามืด...มาเดินที่นี่ปลอดภัยใกล้มือหมอจ้า

รูปแบบอาคารและชื่อร้านหลายแห่งยังคงบรรยากาศแบบเดิมในอดีต

ร้านขายผ้าเมตร  ที่ยังคงมีอยู่หลายร้านในย่านนี้



ด้านบนของหลังคาก็เป็นแบบเก่า ที่บางส่วนยังเป็นแบบกระเบื้องว่าว มีแนวกันไฟกั้นเป็นล๊อกไว้

ยานหัถกิจ  ร้านอุปกรณ์จักรยาน/มอเตอไซต์ บรรยากาศเก๋ามากกก





ในช่วงเช้าถึงกลางวันมีร้านขายอาหารและของกินกระจายอยู่ทั่วตลาด  ถ้าเป็นร้านอาหารเก่าแก่ที่คนไปแวะกิน ก็เช่น ร้านประดิษฐโภชนา เป็นร้านอาหาร มีเมนูเหมือนร้านอาหารริมน้ำ แต่จะอยู่ในห้องแถวริมน้ำ เป็นแบบ Open Air 

เลยจากนี้ ไปอีกหน่อยมีร้านกาแฟริมน้ำ บรรยากาศดี น่านั่งชิวๆ ชื่อร้านท่าน้ำ    ถ้าแวะไปแถวตลาดทรัพย์สิน แล้วมีเวลาอยากนั่งชิวหลบร้อนในร้านเก๋ๆ ก็จะต้องไม่พลาดร้านนี้ Thanam Cafe

วิวแม่น้ำบางปะกง  มองออกมาจากในร้าน


 
ฝั่งอาคารที่อยู่ริมน้ำ เป็นถนนมรุพงษ์ จะไม่ได้เป็นอาคารรูปแบบห้องแถวที่เป็นแบบเดียวกันเหมือนถนนพานิช จะเป็นตึกที่แยกเจ้าของกัน หรือบางแห่งก็เป็นบ้านไม้ มีสารพัดของขาย ตั้งแต่ร้านอาหาร  ร้านกาแฟ ร้านขายอุปกรณ์จักรสาน  ร้านอาหารสัตว์  เป็นต้น
มีขายทุกอย่างแม้แต่เครื่องจักรสาน 
เลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี  นักท่องเที่ยวนิยมไปกินกัน  คือ ร้านบ้านไม้ริมน้ำ จะหลบเข้าไปในโรงหนังเก่า ลักษณะของร้านก็ตามชื่อร้านเลย  คือบ้านไม้ริมน้ำ แบบคลาสสิค
Credit ภาพจาก www.facebook.com/banmairimnam

Credit ภาพจาก www.facebook.com/banmairimnam
จากร้านอาหารแล้วก็มาถึง  ร้านแบบ Street Food ร้านริมทางเจ้าดัง หน้าโรงหนังเก่า  ที่เริ่มขายช่วงเย็นก็ต้องร้าน  "เจ๊อึ่ง" ที่เค้าบอกว่าขายมาหลายสิบปีแล้ว   ข้างๆ ร้านเจ๊อึ่งก็มีอย่างอื่นขายอีกหลายอย่าง ทั้งหมูสะเต๊ะ ลูกชิ้นปิ้ง กระเพราะปลา  เสต๊ก น้ำปั่น  ส้มต่ำ  เรียกได้ว่าเป็นอีกย่าน สำคัญยามเย็นของแปดริ้วเลย



เลยร้านเจ๊อึ่งไปหน่อยตรงเชิงสะพานวรรณยิ่ง ก็มีไอศกรีมเจ้าอร่อย  เป็นไอศกรีมกะทิ แล้วก็มีเครื่องให้เลือกใส่ ไม่ว่าจะเป็น เผือก ถั่วแดง  ข้าวเหนียว เป็นต้น   หรือถ้าข้ามสะพานวรรณยิ่งไปก็จะเป็นท่าใหญ่ ซึ่งเป็นอีกย่านที่ของกินเยอะไม่แพ้กัน  ที่ได้ยินติดหูก็น่าจะเป็น  นมสดท่าใหญ่  ที่เดี๋ยวนี้มีหลายสาขา  จนงงว่าตรงไหนมันคือ "ท่าใหญ่" กันแน่

วันนี้แค่นี้ก่อนแล้วกัน ...ที่จริงช่วงเย็นยังมีบัวลอยเจ้าอร่อย  กับก๋วยเตี๋ยวกุ้งทอด แถวตลาดบ่อบัว  กระเพราะปลาเจ้าอร่อยหน้าโลตัสที่อยู่ข้างสถานีตำรวจ  แถวๆ นั้นก็มีร้านริมทางตอนเย็นค่ำอยู่หลายร้าน  ...แต่หารูปไม่เจอ ลงไว้แค่นี้ก่อนละกันเนอะ

แผนที่ : 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กิจกรรมรับร้อนเมืองแปดริ้ว